สัญญาณเตือนของแผลกดทับที่ต้องรีบพบแพทย์

แผลกดทับสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็วหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีการเคลื่อนไหวจำกัดหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง การสังเกตสัญญาณเตือนของแผลกดทับตั้งแต่เนิ่นๆ และรีบพบแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

1. สัญญาณเตือนเบื้องต้น

1.1 รอยแดงที่ไม่จางหาย

  • หากพบรอยแดงบนผิวหนังที่ไม่หายไปแม้หลังจากลดแรงกดในบริเวณนั้น อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของแผลกดทับระยะที่ 1
  • รอยแดงอาจไม่เจ็บเมื่อสัมผัส แต่บ่งบอกถึงความเสียหายของผิวหนังชั้นนอก

1.2 ผิวหนังเปลี่ยนสี

  • ผิวหนังอาจมีสีเข้มขึ้น (สำหรับคนผิวคล้ำ) หรือสีซีดลงผิดปกติ
  • บริเวณนั้นอาจรู้สึกอุ่นหรือเย็นกว่าปกติ

1.3 ผิวหนังบวม

  • บริเวณที่มีการกดทับอาจบวมเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากการอักเสบในเนื้อเยื่อ

2. สัญญาณแผลกดทับที่ลุกลาม

2.1 ผิวหนังลอกหรือพอง

  • หากพบว่าผิวหนังเริ่มลอก มีตุ่มพอง หรือเกิดแผลเปิด แสดงว่าแผลกดทับกำลังเข้าสู่ระยะที่ 2
  • บริเวณแผลอาจเริ่มมีน้ำเหลืองไหลหรือมีลักษณะชื้น

2.2 แผลเปิดลึก

  • ในกรณีที่แผลเริ่มเปิดและมองเห็นเนื้อเยื่อชั้นลึก เช่น ชั้นไขมันหรือกล้ามเนื้อ ถือว่าแผลกดทับเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือ 4 ซึ่งต้องได้รับการรักษาโดยด่วน

2.3 กลิ่นไม่พึงประสงค์

  • หากแผลมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ

2.4 ของเหลวผิดปกติ

  • พบของเหลวที่มีลักษณะหนองหรือมีสีผิดปกติ เช่น สีเหลืองเข้ม สีเขียว หรือสีแดงปนเลือด

3. อาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ

3.1 ไข้

  • การมีไข้ร่วมกับแผลกดทับอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังตอบสนองต่อการติดเชื้อ

3.2 รอยแดงลุกลาม

  • รอยแดงที่ขยายตัวจากแผลไปยังบริเวณรอบๆ อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบที่ลุกลาม

3.3 ปวดแผลมากขึ้น

  • ความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อหรือเนื้อเยื่อที่เสียหายลึกขึ้น

3.4 บวมและร้อนบริเวณแผล

  • บริเวณรอบแผลที่บวมและร้อนเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการติดเชื้อ

4. สัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง

4.1 การติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis)

  • อาการรวมถึงไข้สูง หนาวสั่น หายใจเร็ว ความดันโลหิตต่ำ และรู้สึกมึนงง

4.2 การติดเชื้อในกระดูก (Osteomyelitis)

  • หากแผลลึกจนถึงกระดูก อาจเกิดการติดเชื้อในกระดูก ซึ่งต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือการผ่าตัด

4.3 การเน่าเปื่อยของเนื้อเยื่อ (Tissue Necrosis)

  • บริเวณแผลอาจเปลี่ยนเป็นสีดำหรือมีเนื้อตาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการไหลเวียนโลหิตในบริเวณนั้นถูกตัดขาด

5. เมื่อใดที่ควรพบแพทย์

  • เมื่อพบรอยแดงที่ไม่จางหายหลังลดแรงกด
  • หากแผลเริ่มลอก มีตุ่มพอง หรือแผลเปิดลึก
  • แผลมีกลิ่นผิดปกติหรือมีของเหลวลักษณะหนองไหล
  • เมื่อมีอาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ เช่น ไข้ รอยแดงลุกลาม หรือปวดแผลมากขึ้น
  • หากพบสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด

6. วิธีป้องกันไม่ให้แผลลุกลาม

6.1 ดูแลแผลอย่างเหมาะสม

  • ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแผลที่แพทย์แนะนำ
  • ใช้ผ้าพันแผลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

6.2 ลดแรงกดบริเวณที่เสี่ยง

  • เปลี่ยนท่าทางผู้ป่วยทุก 1-2 ชั่วโมง
  • ใช้ที่นอนลมหรืออุปกรณ์ช่วยลดแรงกด เช่น หมอนรอง

6.3 เพิ่มโภชนาการที่ดี

  • รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อ เช่น โปรตีน วิตามินซี และซิงค์

สรุป

สัญญาณเตือนของแผลกดทับ เช่น รอยแดงที่ไม่จางหาย ผิวหนังลอก แผลเปิดลึก หรืออาการติดเชื้อ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การรีบพบแพทย์เมื่อสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการลุกลามและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้ การดูแลและป้องกันแผลกดทับอย่างเหมาะสมตั้งแต่ระยะแรกเริ่มเป็นกุญแจสำคัญในการรักษา

มายวี่ สเปรย์ฟิล์มปกป้องผิวหนัง
ช่วยลดแรงเสียดสีและปกป้องผิวจากการเกิดแผลกดทับ ด้วยฟิล์มบางเบา อ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวัน

สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ Line @genkihouses หรือค้นหา Mildvy Spray ได้ทุกช่องทาง
ดาวน์โหลดฟรี E-Book คู่มือดูแลผู้ป่วยติดเตียง คลิกเลย https://t.ly/6o2jq

#มายวี่ #สเปรย์ป้องกันแผลกดทับ #แผลกดทับ #ดูแลผู้ป่วย

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top