แผลกดทับ: ปัญหาที่ซ่อนเร้นในสังคมสูงวัยไทย – ภาระที่รัฐบาลไม่อาจมองข้าม
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ภายในปี 2564 มีประชากรผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) มากกว่า 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2574 สังคมสูงวัยนำมาซึ่งความท้าทายหลายประการ หนึ่งในนั้นคือปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ ซึ่งรวมถึง “แผลกดทับ” ภาวะแทรกซ้อนที่สร้างความทุกข์ทรมานและเป็นภาระหนักต่อทั้งผู้ป่วย ครอบครัว และระบบสาธารณสุขของประเทศ
ผลกระทบของแผลกดทับต่อระบบสาธารณสุข
-
- ค่าใช้จ่ายในการรักษา: การรักษาแผลกดทับต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ทั้งค่าเวชภัณฑ์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง และค่าเสียโอกาสในการทำงานของผู้ดูแล นอกจากนี้ หากเกิดภาวะแทรกซ้อน ค่าใช้จ่ายในการรักษาจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
- การใช้ทรัพยากรทางสาธารณสุข: ผู้ป่วยแผลกดทับมักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการใช้เตียงและบุคลากรทางการแพทย์อย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการแก่ผู้ป่วยรายอื่นๆ
- ภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์: การดูแลผู้ป่วยแผลกดทับต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่อย่างมาก ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีภาระงานเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลต่อคุณภาพการดูแลผู้ป่วยโดยรวม
แผลกดทับ: ปัญหาที่ทวีความรุนแรงในสังคมสูงวัย
ผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่ติดเตียงมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดแผลกดทับ เนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น ผิวหนังที่บอบบางลง การเคลื่อนไหวที่ลดลง โรคประจำตัว และการขาดสารอาหาร รวมถึงการไม่มีลูกหลานคอยดูแลเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่มีเงินเพื่อซื้อผ้าอ้อมเปลี่ยน เมื่อเกิดแผลกดทับแล้ว การรักษามักเป็นไปได้ยากและใช้เวลานาน นอกจากความเจ็บปวดทางกาย แผลกดทับยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วย ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล และซึมเศร้า
ปัญหาการขาดแคลนผู้ดูแล: วิกฤตซ้ำเติมปัญหาแผลกดทับ
ในสังคมสูงวัยที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก แต่แรงงานมีจำกัด การขาดแคลนผู้ดูแลเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้ผู้สูงอายุหลายรายไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง การเปลี่ยนท่านอน การทำความสะอาดร่างกาย และการสังเกตสัญญาณผิดปกติ อาจไม่สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลกดทับ
ตามข้อมูลที่นำเสนอในงานสมัชชาเฉพาะประเด็นว่าด้วยนโยบายรองรับสังคมสูงวัย หากจะให้การดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างเต็มที่ โดยให้ผู้ดูแลมืออาชีพดูแลผู้ป่วย 3 คน จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นภาระใหญ่หลวงต่อระบบสาธารณสุข ในกรณีที่การดูแลยังไม่ทั่วถึง อาจส่งผลให้เกิดแผลกดทับมากขึ้น และการรักษาที่ล่าช้าอาจนำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ยากต่อการรักษา นอกจากนี้ ยังพบว่าแผลกดทับที่เรื้อรังและรักษาได้ยาก ยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการดูแล และอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในที่สุด
ข่าวการทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุที่ปรากฏเป็นระยะ สะท้อนให้เห็นถึงความเครียดและภาระอันหนักอึ้งของผู้ดูแล แผลกดทับที่เรื้อรังและรักษาได้ยาก ยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการดูแล และอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในที่สุด
ป้องกันดีกว่ารักษา: ทางออกที่ยั่งยืน
การป้องกันแผลกดทับเป็นทางออกที่สำคัญและยั่งยืนกว่าการรักษา การให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุและผู้ดูแลเกี่ยวกับการป้องกันแผลกดทับ การส่งเสริมการเคลื่อนไหวร่างกาย การดูแลผิวหนัง และการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแผลกดทับที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลได้อย่างมาก
ลดภาระระบบสาธารณสุข: ด้วยการป้องกัน
การป้องกันแผลกดทับไม่เพียงแต่ช่วยลดความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยและครอบครัว แต่ยังช่วยลดภาระของระบบสาธารณสุขไทย ค่าใช้จ่ายในการรักษาแผลกดทับที่ลดลง หมายถึงงบประมาณที่สามารถนำไปใช้พัฒนาบริการด้านอื่นๆ และเพิ่มคุณภาพการดูแลสุขภาพของประชาชนโดยรวม
Mildvy: สเปรย์ป้องกันแผลกดทับ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้สูงวัยไทย
Mildvy เป็นสเปรย์ป้องกันแผลกดทับที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องผิวจากการระคายเคืองผิวจากคราบอุจจาระและปัสสาวะที่ผ้าอ้อมและการเสียดสี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดแผลกดทับ Mildvy มีส่วนผสมของโพลีเมอร์ Acrylates Copolymer เป็นสารสร้างฟิล์มที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันบนผิวหนัง ช่วยให้เก็บความชุ่มชื้นที่ผิวหนังได้ดีขึ้น ทำให้ Mildvy มีประสิทธิภาพในการป้องกันแผลกดทับ และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
การใช้ Mildvy อย่างสม่ำเสมอในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ จะช่วยลดโอกาสในการเกิดแผล และยังช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ลดจำเป็นในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดภาระของผู้ดูแล
Mildvy มีประสิทธิภาพเทียบเท่าผลิตภัณฑ์ป้องกันแผลกดทับที่มีชื่อเสียงในท้องตลาด แต่ Mildvy มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก และผลิตโดยโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP นำเข้าจากไต้หวัน การเลือกใช้ Mildvy จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
การเลือกใช้ Mildvy จะส่งผลดีต่อภาพรวมอย่างไร:
- ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล: การป้องกันแผลกดทับด้วย Mildvy ช่วยลดความจำเป็นในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งต่อผู้ป่วยและระบบสาธารณสุข
- เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย: Mildvy ช่วยลดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานจากแผลกดทับ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- ลดภาระของผู้ดูแล: Mildvy ใช้งานง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระในการดูแลผู้ป่วยของผู้ดูแล
- ส่งเสริมสุขภาพที่ดีในสังคมสูงวัย: การดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ Mildvy เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในสังคมสูงวัย
Mildvy: ทางเลือกที่คุ้มค่า คุ้มราคา และมีประสิทธิภาพ เพื่อการดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุอย่างดีที่สุด
สนใจสั่งซื้อ Mildvy หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ Line @genkihouses